วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

เชาเชา สุนัขพันธุ์เชาเชา เจ้าหมาหมี สิงโตน้อย

สุนัขพันธุ์เชาเชา chow chow

สุนัขพันธุ์เชาเชา chow chow

ประวัติความเป็นมา สุนัขพันธุ์เชาเชา


เชาเชา (Chow Chow) เป็นสุนัขที่มีรกรากจากประเทศจีน แต่ยังไม่มีใครทราบถึงความเป็นมาที่แท้จริง เนื่อง จากหลักฐานอ้างอิงบางอย่างถูกทำลายลง อย่างไรก็ดี ในสมัยราชวงศ์ฮั่น หรือเมื่อประมาณ 150 ปีก่อนคริสตศักราช มีสถานที่ที่หนึ่งซึ่งเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการใช้ เชาเชา สำหรับการล่าสัตว์ในยุคนั้น จึงเป็นที่เชื่อกันว่า สุนัขพันธุ์เชาเชา เป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่ถือกำเนิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี ในขณะที่มีผู้ทำการศึกษาและเชื่อกันว่า จุดกำเนิดของสุนัขพันธุ์ เชาเชา นับย้อนหลังไปได้นานกว่านั้นมาก

ทั้งนี้ มีหลักฐานที่เชื่อได้ระบุว่า เชาเชา มีแหล่งกำเนิดอยู่ทางตอนเหนือสุดของจีน แต่กลับเป็นเรื่องประหลาดที่พบว่า เชาเชา เป็นที่นิยมมากทางตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองกวางตุ้งและเมืองใกล้เคียง โดยในเมืองเหล่านั้นถือกันว่าเป็น เชาเชา พันธุ์แท้ และมักจะถูกเรียกว่า สุนัขลิ้นดำ หรือสุนัขปากดำ ส่วนทางตอนเหนือของเมืองไผ่ปิง เชาเชา ถูกขนานนามว่า สุนัขหมาป่า สุนัขหมี สุนัขลิ้นดำ หรือสุนัขกวางตุ้ง

สำหรับต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์เชาเชา บางทฤษฎีสันนิษฐานว่า เชาเชา เกิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง สุนัขพันธุ์มาสตีฟแห่งธิเบต และพันธุ์ซามอย จากตอนเหนือของไซบีเรีย เนื่องจาก เชาเชา มีลักษณะของสุนัขสองพันธุ์นี้ผสมผสานอยู่ในรูปร่าง ทว่าก็มีข้อโต้แย้งโดยอาศัยความจริงที่ว่า สุนัขพันธุ์เชาเชา เป็นสุนัขเพียงพันธุ์เดียวในโลกที่มีลิ้นเป็นสีดำปนน้ำเงิน ซึ่งความจริงข้อนี้เองที่ทำให้ยืนยันได้ว่า เชาเชา เป็นสุนัขพันธุ์แท้ดั้งเดิม และขณะเดียวกัน อาจจะเป็นบรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์ซามอย, นอร์วิเกียน, เอิล์ตฮาวด์, ดีซอน และปอมเมอเรเนียน ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันด้วย

ในปี ค.ศ.1880 สุนัข เชาเชา เริ่มมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ได้รับความสนพระทัยจากพระนางเจ้าวิคตอเรีย ต่อมาในปี ค.ศ.1985 ได้มีการก่อตั้ง สมาคมสุนัขพันธุ์เชาเชา ขึ้นเป็นครั้งแรกในอังกฤษ ส่วนในสหรัฐอเมริกามีการโชว์สุนัขพันธุ์ เชาเชา ครั้งแรกในปี ค.ศ.1980 โดยในครั้งนั้น เชาเชา ที่ชื่อว่า ทัคยา (Takya) มีนางสาว เอ.ซี.เดอร์บี้ เป็นเจ้าของ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เมื่อสามารถพิชิตรางวัลในประเภททั่วไป และนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 เชาเชา เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายขึ้นจวบจนปัจจุบัน


สุนัขพันธุ์เชาเชา chow chow

ลักษณะทั่วไป

เชาเชา เป็นสุนัขขนาดปานกลาง ลำตัวสั้นกระทัดรัด มีความแคล่วคล่องว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีโครงสร้างที่สมดุลมาก ส่วนสูงเฉลี่ย 46 เซนติเมตร หนัก 20-25 กิโลกรัม หัวใหญ่แบนและกว้างปากยาวปานกลาง จมูกสีดำหรือน้ำตาล ค่อนข้างเล็ก หูเล็กป้อม หางเป็นพวงใหญ่ม้วนตวัดเหนือหลัง ตาเล็กและดำ ริมฝีปากเหลืองและเพดานมีสีดำ ลิ้นเป็นสีดำอมม่วง เชา เชา เมื่อโตแล้วจะมีใบหน้าย่นบึ้ง มีท่าทางการเดินที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวโดยแท้จริง มีความสง่างาม เพราะว่าข้อเท้าขาหลังตั้งตรง

ส่วนขนของ เชาเชา จะดกหนา เส้นขนเหยียดตรง ขนชั้นนอกค่อนข้างหยาบ ขนชั้นในนุ่ม มีสีสดใสและเป็นสีเดียวกันตลอด อาจมีเฉดสีแตกต่างออกไปเล็กน้อยตรงแผงคอที่หางและก้น สีที่พบได้คือ ดำ แดง น้ำตาล และขาว ที่สำคัญคือ เชา เชา ต้องมีสีเดียวตลอดทั้งตัว

ลักษณะที่บกพร่อง

1. จมูกมีจุดสีหรือมีสีอื่นที่เห็นได้ชัด นอกจากสีดำ ยกเว้น เชา เชา ที่มีสีฟ้าซึ่งจมูกอาจมีสีฟ้าหรือสีฟ้าปนเทา
2. ลิ้นมีสีแดงหรือชมพู หรือมีจุดสีแดงหรือสึชมพูเห็นได้ชัด
3. หูตกข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง

ลักษณะนิสัยของ เชาเชา

ด้วยความที่ในอดีต เชาเชา เป็นสุนัขที่ใช้ในการช่วยล่าสัตว์ เป็นสุนัขที่มีความเป็นนักสู้ในหัวใจ ดังนั้น เชาเชา จึงไม่ใช่สุนัขที่ขี้เล่นประจบเหมือนกับสุนัขหลาย ๆ พันธุ์ มีนิสัยเฉพาะตัวที่สุขุม มั่นคง และเชื่อมั่นตัวเอง เชาเชา จึงเป็นสุนัขที่ไม่ต้องการให้เจ้าของเอาอกใจมากนัก พวกเขาจัดเป็นสุนัขที่เงียบ เห่านับครั้งได้ และส่วนใหญ่เห่าเพื่อเตือนให้ระวังภัย มีนิสัย ซื่อสัตย์ เก็บตัวและขรึม

ส่วนหน้าตาที่อาจจะดูดุ ๆ บึ้ง ๆ แต่ความจริงแล้ว เชาเชา เป็นสุนัขที่มีอารมณ์ดี รักอิสระ และจงรักภักดี พวกเขาจะไม่ชอบกระดิกหางให้กับคนทั่วไป หากแต่จะเลือกแสดงความรักและความขี้เล่นของเขาต่อคนในครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้ ความภักดีของสุนัขพันธุ์นี้ คือสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นคุณสมบัติอันมีค่า

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

คุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ประจำรัชกาล


สมาชิกในครอบครัวคุณทองแด

คุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ประจำรัชกาล

เดิมคุณทองแดงเป็นลูกของนังแดง สุนัขจรจัดบริเวณถนนพระราม 9 โดยมีนายแพทย์คนหนึ่งนำทองแดงมาทูลเกล้าถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดศูนย์การแพทย์พระราม 9 เมื่อทอดพระเนตรทองแดงแล้ว ก็มีรับสั่งว่าให้นำเข้ามาเลี้ยง จากที่เคยเป็นลูกหมาจรจัด คุณทองแดง ก็เข้ามาอยู่ในวัง

ส่วนแม่ของคุณทองแดงก็มีผู้รับไปเลี้ยงดูแล เมื่อเข้ามาอยู่ในวังคุณทองแดงก็เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากเป็นสุนัขที่ฉลาดมาก ความฉลาดของคุณทองแดง เช่น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเรียกให้คุณทองแดงขึ้นเฝ้าเพื่อที่จะชั่งน้ำหนัก แค่เพียงรับสั่งว่า ทองแดงไปชั่งน้ำหนัก คุณทองแดงก็จะเดินขึ้นตาชั่ง หรือเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาเพื่อทรงออกกำลังตรงถนนบริเวณชายหาด ซึ่งมีต้นมะพร้าวอยู่ เพียงรับสั่งว่า อ้อมต้นมะพร้าวคุณทองแดงก็จะวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวทันที โดยไม่ต้องมีการสอน และเมื่อวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวไปสักครึ่งต้น คุณทองแดงก็จะหยุดหันมามองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นอกจากนี้ คุณทองแดง ยังเป็นสุนัขที่ไม่เข้ามาเคลียคลอพระองค์ท่าน เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน คุณทองแดงจะนำเสด็จอยู่หน้าพระองค์ท่าน เวลาพระองค์ท่านประทับนั่ง คุณทองแดงก็จะนั่งหมอบอยู่ด้านหน้า ใช้สองขาหน้าเกยกันเหมือนคนกำลังหมอบคลาน แล้วหันหน้าออกไปด้านนอก คอยระแวดระวังด้านนอกอย่างเดียว แต่หากระยะเวลาในการเข้าเฝ้าฯ นาน คุณทองแดงจะเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์และผู้มาเข้าเฝ้าฯ พร้อมกับถอนใจยาว แต่ก็ไม่ลุกไปไหน ยังคงหมอบเฝ้าอยู่เช่นนั้น

ทั้งนี้ ยังเป็นสุนัขที่กตัญญูรู้คุณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับแม่มะลิ ซึ่งเป็นเสมือนแม่นมของคุณทองแดง ที่แม้เมื่อแยกกันอยู่แล้ว ทุกครั้งที่คุณทองแดงพบกับแม่มะลิ จะแสดงความเคารพแม่มะลิอยู่เสมอ

คุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงสุนัขที่ 17 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้รับการตั้งฉายาว่าเป็น สุนัขประจำรัชกาล


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
thailandgrandpetshow.com, วิกิพีเดีย

ชเนาเซอร์


ชเนาเซอร์



     มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมัน สุนัขที่มีหนวดรุงรังแทบจะคลุมหน้าคลุม มิด มองดูราวกับเอาหน้ากากตัวละครมาสวมไว้ โดยไม่มีใครเฉลียวใจว่าใต้หน้ากากที่ว่านี้จะเป็นสุนัขที่ร้ายกาจสักแค่ไหน สุนัขพันธุ์นี้ชอบอยู่กับคน แต่ถ้ากับสุนัขด้วยกันแล้วกลับเมินเอาเลยทีเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้จะเรียกว่าพันธุ์หมาเมินก็คงไม่ผิด 
    สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องนำมาคุ้มครองป้องกันภัยหรือครอบครัวที่มีเด็กๆ และต้องการสุนัขที่มีความปราดเปรียวกระฉับกระเฉงมากกว่าสุนัขสวยงาม นอกจากนี้แล้วมันยังเชื่องและเรียนรู้ได้เร็วอีกด้วย 
สิ่งที่จำเป็นขึ้นอยู่กับขนาดของสายพันธุ์ พันธุ์เล็กอยู่ในบ้านขนาดปานกลางไม่ต้องใหญ่โตนักก็ได้ ส่วนพันธุ์ใหญ่นั้นควรอยู่ในบ้านที่มีลานวิ่ง สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์ทุกพันธุ์ต้องการการออกกำลังกายอย่างมาก และควรมีอะไรให้ทำตลอกเวลา ขนนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลทำความสะอาด ตกแต่งขนอยู่เป็นประจำและตัดขนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 
     จุดเด่นของสุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์คือ เป็นสุนัขเฝ้าบ้านชั้นเลิศและเป็นผู้พิทักษ์ที่มีความกล้าหาญ มีใจรักคนและบ้านมาก
ในภาษาเยอรมันคำว่า ชเนาซ์ (Schnauze) มีความหมายว่าปาก คำว่าชเนาเซอร์จึงมีความเหมาะสมที่จะเรียกสุนัขที่มีหนวดเคราอย่างสุนัขพันธุ์นี้ 
     สายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสายชเนาเซอร์ ได้แก่ ชเนาเซอร์ที่มีขนาดกลาง หรือที่เรียกว่า สแตนดาร์ดชเนาเซอร์นั่นเอง หลายศตวรรษมาแล้วที่สุนัขพันธุ์นี้จะวิ่งตามรถม้าซึ่งวิ่งไปตามป่าของประเทศเยอรมันนี โดยวิ่งเหยาะๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเคียงข้างกับม้า เป็นสุนัขที่ใช้จับหนูได้เป็นเลิศ 
 ไจแอนท์ชเนาเซอร์หรือชเนาเซอร์ยักษ์จะแข็งแรงและกำยำกว่าสแตนดาร์ดชเนาเซอร์ เป็นสุนัขอารักขาที่ดี ถูกใช้ให้ต้อนวัวต้อนควายมานานหลายร้อยปี และได้เลิกไปหลังจากรถไฟเข้ามามีบทบาทแทนที่ ปรกติจะเรียบสงบ แต่ต้องฝึกให้อยู่ในกรอบ
    มิเนียเจอร์ชเนาเซอร์ หรือชเนาเซอร์ขนาดเล็ก เป็นสุนัขที่ย่อส่วนของสแตนดาร์ดชเนาเซอร์ น่ารัก เชื่อฟัง เป็นสุนัขอารักขาที่ตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นเพื่อนที่อยู่ในอุดมคติ 
มาตราฐานสายพันธุ์ 
ลักษณะโดยทั่วไป : เป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉง กำยำ มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง สัดส่วนของลำตัวเหมือนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 
นิสัย : ตื่นเต้นและมีน้ำใจ เต็มที่ที่จะทำให้เจ้านายพอใจ ข้อบกพร่องคือ ขี้อายหรือนิสัยชั่วร้าย 

ศีรษะ : แข็งแรง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าผากไม่ควรย่น ส่วนบนของกะโหลกศีรษะค่อนข้างแบนและยาว 

ฟัน : สบกันแบบกรรไกร ฟันบนหรือฟันล่างยื่นออกไปข้างหน้าเป็นข้อบกพร่อง 

ตา : เล็ก สีน้ำตาลเข้ม ตั้งอยู่ลึก ข้อบกพร่องคือ มีสีอ่อนหรือมีขนาดใหญ่และโปนออกมา 

หู : ปลายแหลม สมมาตรกับหัว ไม่ยาวจนเกินไป ตั้งฉากตรงมุมใน 

คอ : แข็งแรงและโค้งอย่างสวยงาม หนังตรงคอหอยจะไม่ย่น 

ลำตัว : สั้นและลึก เส้นหลังตรง ความยาวจากอกไปยังกระดูกสันอกยาวเท่ากับความสูงที่วัดถึงจุดสูงสุด อกกว้างเกินไป หรือกระดูกซี่โครงตื้น หลังโค้งขึ้นเป็นข้อบกพร่อง 

ส่วนหน้า : มีไหล่ที่แบนและลาดเล็กน้อย ขาหน้าเหยียดตรงและขนานกัน มีข้อเท้าที่แข็งแรง ศอกชิดกัน ข้อศอกหลวมถือว่าเป็นข้อบกพร่อง 

ส่วนหลัง : มีโคนขาที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ส่วนท้ายไม่อยู่สูงกว่าไหล่ ข้อบกพร่องคือ ข้อขาหลังบิดเข้าหากัน 

เท้า : อุ้งเท้าสีดำ หนา สั้นและมน นิ้วเท้าโค้งและกระชับ 

การเคลื่อนไหว : ศอกของขาหน้าจะแนบชิดกับลำตัว ขาหลังจะเหยียดตรงและอยู่ในระนาบเดียวกันกับขาหน้า 

หาง : ตั้งอยู่สูงและเหยียดตรง หางจะตัดให้สั้นขนาดที่มองเห็นเหนือเส้นหลัง หางตั้งต่ำเป็นข้อบกพร่อง 

ขน : มีสองชั้น ขนชั้นนอกแข็งและหยิก คอและลำตัวต้องมีการถอนทิ้ง เวลาลงประกวดขนต้องยาวพอที่จะมองเห็นลักษณะของขน จะปิดสนิทในส่วนของคอ หูและกะโหลก ข้อบกพร่องคือ ขนนิ่มหรือเรียบเกินไป มองดูลื่น 

สี : เทา ดำและน้ำเงิน และดำสนิท ที่นิยมคือสีเทาดำ หากมีเขตของสีน้ำตาลแดงก็ยอมรับได้ 

น้ำหนัก : - ขนาดเล็ก 17 - 18 ปอนด์
- ขนาดมาตราฐาน 33 - 40 ปอนด์
- ขนาดยักษ์ 60 - 70 ปอนด์ 
ความสูง : - ขนาดเล็ก 13.5 นิ้ว
- ขนาดมาตราฐาน 16.5 - 17.5 นิ้ว
- ขนาดยักษ์ 25.5 - 27.5 นิ้ว 

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว

ประวัติความเป็นมา ของ สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว
จากข้อมูล ที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้ว ต.บางแก้ว บ้านชุมแสงสงคราม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว นั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ. พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็น ป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับ เป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมูป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาใน หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยง สุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัดแต่ละ ครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัด ด้วยกิติศักดิ์ในความดุของ สุนัขที่ วัดบางแก้วนี้เองจึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้ เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ ๆ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไป มากที่สุดก็คือ ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไป หลายจังหวัด

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

สุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี (Siberian Husky)




สุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี (Siberian Husky) เซบีเรียน ฮัสกี้ สุนัข พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางแถบตะวันออกของประเทศรัสเซีย ในดินแดนไซบีเรีย เดิมเป็น สุนัข เลี้ยงของชนเผ่าพื้นเมืองชัคชิ (Chukchi) ซึ่งมีความพยายามที่จะพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้สุนัขใช้งานที่มีคุณสมบัติอันเป็นเลิศทั้งในด้านความแข็งแกร่ง อดทนต่อสภาพอากาศอันหนาวจัด ทั้งยังสามารถวิ่งฝ่าหิมะในระยะทางไกลได้ เพื่อจุดประสงค์ในการนำสุนัขไปใช้งานทั้งในการล่าสัตว์ หาอาหาร เฝ้ายาม และลากเลื่อนบนพื้นหิมะ
 จากการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวชัคชิกับ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ผูกพันแน่นแฟ้น และกลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของชนเผ่าในที่สุด
          หลังคริสต์ศษวรรษที่ 19 ชาวอเมริกันในอลาสก้า เริ่มได้ยินคำร่ำลือถึงสุนัขลากเลื่อนสายพันธุ์ดีในแถบไซบีเรีย และเริ่มมีการนำ สุนัข ไซบีเรียน อัสกี้ เข้าสู่ดินแดนตะวันตกผ่านทางพ่อค้าชาวรัสเซีย ทำให้ สุนัข ไซบีเรียน ฮัสกี้ เริ่มมีชื่อเสียงในหมู่อเมริกันชนมากขึ้น หลังจากการชนะการแข่งขันลากเลื่อนที่อลาสก้าในปี ค.ศ. 1909 
          ด้วยความสามารถในการวิ่งลากเลื่อนบนหิมะเป็นระยะทาง 400 ไมล์ หลังจากนั้นการแข่งขันสุนัขลากเลื่อนก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น โดยเป็นเจ้า ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่สามารถกวาดรางวัลชนะเลิศได้อย่างต่อเนื่อง จนในปี ค.ศ. 1930 American Kennel Club (AKC) ก็ได้ขึ้นทะเบียนสุนัขสายพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ และในเวลาต่อมาก็ได้มีการนำ สุนัข ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไปสาธิตการแข่งขันกีฬาสุนัขลากเลื่อน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ.1932 ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ลักษณะนิสัย และการอยู่ร่วมกันของ สุนัข ไซบีเรียน ฮัสกี้
          ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่อยู่ร่วมกับมนุษย์มาเป็นเวลายาวนานในฐานะสุนัขใช้งาน  พวกเขามีพลังเปี่ยมล้น ตื่นตัว ชอบการเข้าสังคม กระฉับกระเฉง จึงเหมาะสำหรับเจ้าของที่มีนิสัยกระตือรือร้น รักการออกกำลังกาย  และมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับเขาอย่างสม่ำเสมอ สุนัข ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอุปนิสัยที่เป็นมิตร ขี้เล่น และเข้ากับคนได้ง่าย จึงทำให้เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เซบีเรียนเพศผู้มักต้องการความสนใจ และชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากกว่าเพศเมีย
          สุนัข ไซบีเรียน อัสกี้ เป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง พวกเขาจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าของในฐานะสุนัขที่จะต้องจงรักภักดีต่อเจ้านาย แต่จะมองทุกคนในครอบครัวเป็นเพื่อนของเขา และให้ความรักกับทุกคนแม้กระทั่งคนแปลกหน้า พวกเขามีความคิดเป็นของตัวเอง และจะทำตามใจตัวเอง หากเจ้าของละเลยการเอาใจใส่ดูแล
          แม้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ จะเป็นสุนัขที่ใจดี เข้ากับเด็กได้ง่าย แต่ในการให้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เล่นกับเด็ก ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่นกันตามลำพัง เนื่องจากทั้งสุนัขและเด็กมักไม่รู้จักออมแรงในการเล่น จนอาจเกิดพลาดพลั้ง ทำให้บาดเจ็บได้ ส่วนการอยู่ร่วมกับสัตว์อื่น  ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ได้เกลียดแมว หรือสัตว์เลี้ยงต่างเผ่าพันธุ์ แต่พวกเขาจะมองสัตว์เหล่านั้นเป็นเหมือนของเล่นให้ไล่กวด ด้วยเหตุนี้ การที่ไซบีเรียน ฮัสกี้ จะสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นได้อย่างเป็นมิตร จำเป็นต้องได้รับการฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูก

สุนัข หรือ หมา





สุนัข หรือ หมา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูกเป็นตัว ลำตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ อวัยวะเพศของสุนัขตัวผู้มีกระดูกอยู่ภายใน 1 ชิ้น สุนัขที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน (Cuon alpinus) สุนัขที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ ชนิด Canis lupus familiaris สุนัขเป็นสัตว์ที่มีหลายพันธุ์ เช่น ลาบราดอร์, โกลเด้น, ชิวาวา และอีกมากมาย มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ดุและไม่ดุ พันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์ ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ชิสุ ส่วนที่ดุ ได้แก่ ร็อดไวเลอร์ อัลเซเชียน สุนัขแต่ละพันธุ์จะมีนิสัยแตกต่างกัน
สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและล่าเหยื่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของฟันสำหรับเคี้ยวเนื้อและกระดูกจึงยังคงมีอยู่ รวมทั้งการมีประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทำให้วิ่งได้เร็วและเร่งความเร็วได้เท่าที่ต้องการ ลักษณะการเดินของสุนัขจะทิ้งน้ำหนักตัวบนนิ้วเท้า ซึ่งส่งผลให้สุนัขเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่าสัตว์ชนิดอื่น นอกจากนี้สุนัขยังมีสัญชาตญาณในการทำงานเป็นกลุ่ม ดังนั้นสุนัขจึงสามารถล่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

สุนัขพันธุ์ ดัชชุนด์ (Dachshund)





สุนัขพันธุ์ ดัชชุนด์ (Dachshund) เป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มฮาวด์มีรูปร่างที่กะทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ ลำตัวยาวดูแปลกตาจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม สุนัขไส้กรอก ด้วยความแข็งแรงและทรหด บวกกับความฉลาดและกล้าหาญ ทั้งบนและใต้พื้นดิน สุนัขดัชชุนด์หลายตัวรวมกันสามารถเข้าต่อกรกับหมีป่าได้อย่างสบาย สุนัขดัชชุนด์ ซึ่งเด่นที่สุดในอเมริกามีขนาดเล็กเพียงพอที่จะอาศัยอยู่ในบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ จุดด้อยของสุนัทพันธ์นี้นั้นก็คือมีขาที่สั้นมากทำให้วิ่งได้ช้ากว้าพันธุ์อื่นที่มีขนาดตัวเท่ากัน