ประวัติความเป็นมา สุนัขพันธุ์เชาเชา
เชาเชา (Chow Chow) เป็นสุนัขที่มีรกรากจากประเทศจีน แต่ยังไม่มีใครทราบถึงความเป็นมาที่แท้จริง เนื่อง จากหลักฐานอ้างอิงบางอย่างถูกทำลายลง อย่างไรก็ดี ในสมัยราชวงศ์ฮั่น หรือเมื่อประมาณ 150 ปีก่อนคริสตศักราช มีสถานที่ที่หนึ่งซึ่งเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการใช้ เชาเชา สำหรับการล่าสัตว์ในยุคนั้น จึงเป็นที่เชื่อกันว่า สุนัขพันธุ์เชาเชา เป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่ถือกำเนิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี ในขณะที่มีผู้ทำการศึกษาและเชื่อกันว่า จุดกำเนิดของสุนัขพันธุ์ เชาเชา นับย้อนหลังไปได้นานกว่านั้นมาก
ทั้งนี้ มีหลักฐานที่เชื่อได้ระบุว่า เชาเชา มีแหล่งกำเนิดอยู่ทางตอนเหนือสุดของจีน แต่กลับเป็นเรื่องประหลาดที่พบว่า เชาเชา เป็นที่นิยมมากทางตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองกวางตุ้งและเมืองใกล้เคียง โดยในเมืองเหล่านั้นถือกันว่าเป็น เชาเชา พันธุ์แท้ และมักจะถูกเรียกว่า สุนัขลิ้นดำ หรือสุนัขปากดำ ส่วนทางตอนเหนือของเมืองไผ่ปิง เชาเชา ถูกขนานนามว่า สุนัขหมาป่า สุนัขหมี สุนัขลิ้นดำ หรือสุนัขกวางตุ้ง
สำหรับต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์เชาเชา บางทฤษฎีสันนิษฐานว่า เชาเชา เกิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง สุนัขพันธุ์มาสตีฟแห่งธิเบต และพันธุ์ซามอย จากตอนเหนือของไซบีเรีย เนื่องจาก เชาเชา มีลักษณะของสุนัขสองพันธุ์นี้ผสมผสานอยู่ในรูปร่าง ทว่าก็มีข้อโต้แย้งโดยอาศัยความจริงที่ว่า สุนัขพันธุ์เชาเชา เป็นสุนัขเพียงพันธุ์เดียวในโลกที่มีลิ้นเป็นสีดำปนน้ำเงิน ซึ่งความจริงข้อนี้เองที่ทำให้ยืนยันได้ว่า เชาเชา เป็นสุนัขพันธุ์แท้ดั้งเดิม และขณะเดียวกัน อาจจะเป็นบรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์ซามอย, นอร์วิเกียน, เอิล์ตฮาวด์, ดีซอน และปอมเมอเรเนียน ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันด้วย
ในปี ค.ศ.1880 สุนัข เชาเชา เริ่มมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ได้รับความสนพระทัยจากพระนางเจ้าวิคตอเรีย ต่อมาในปี ค.ศ.1985 ได้มีการก่อตั้ง สมาคมสุนัขพันธุ์เชาเชา ขึ้นเป็นครั้งแรกในอังกฤษ ส่วนในสหรัฐอเมริกามีการโชว์สุนัขพันธุ์ เชาเชา ครั้งแรกในปี ค.ศ.1980 โดยในครั้งนั้น เชาเชา ที่ชื่อว่า ทัคยา (Takya) มีนางสาว เอ.ซี.เดอร์บี้ เป็นเจ้าของ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เมื่อสามารถพิชิตรางวัลในประเภททั่วไป และนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 เชาเชา เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายขึ้นจวบจนปัจจุบัน
ลักษณะทั่วไป
เชาเชา เป็นสุนัขขนาดปานกลาง ลำตัวสั้นกระทัดรัด มีความแคล่วคล่องว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีโครงสร้างที่สมดุลมาก ส่วนสูงเฉลี่ย 46 เซนติเมตร หนัก 20-25 กิโลกรัม หัวใหญ่แบนและกว้างปากยาวปานกลาง จมูกสีดำหรือน้ำตาล ค่อนข้างเล็ก หูเล็กป้อม หางเป็นพวงใหญ่ม้วนตวัดเหนือหลัง ตาเล็กและดำ ริมฝีปากเหลืองและเพดานมีสีดำ ลิ้นเป็นสีดำอมม่วง เชา เชา เมื่อโตแล้วจะมีใบหน้าย่นบึ้ง มีท่าทางการเดินที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวโดยแท้จริง มีความสง่างาม เพราะว่าข้อเท้าขาหลังตั้งตรง
ส่วนขนของ เชาเชา จะดกหนา เส้นขนเหยียดตรง ขนชั้นนอกค่อนข้างหยาบ ขนชั้นในนุ่ม มีสีสดใสและเป็นสีเดียวกันตลอด อาจมีเฉดสีแตกต่างออกไปเล็กน้อยตรงแผงคอที่หางและก้น สีที่พบได้คือ ดำ แดง น้ำตาล และขาว ที่สำคัญคือ เชา เชา ต้องมีสีเดียวตลอดทั้งตัว
ลักษณะที่บกพร่อง
1. จมูกมีจุดสีหรือมีสีอื่นที่เห็นได้ชัด นอกจากสีดำ ยกเว้น เชา เชา ที่มีสีฟ้าซึ่งจมูกอาจมีสีฟ้าหรือสีฟ้าปนเทา
2. ลิ้นมีสีแดงหรือชมพู หรือมีจุดสีแดงหรือสึชมพูเห็นได้ชัด
3. หูตกข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง
ลักษณะนิสัยของ เชาเชา
ด้วยความที่ในอดีต เชาเชา เป็นสุนัขที่ใช้ในการช่วยล่าสัตว์ เป็นสุนัขที่มีความเป็นนักสู้ในหัวใจ ดังนั้น เชาเชา จึงไม่ใช่สุนัขที่ขี้เล่นประจบเหมือนกับสุนัขหลาย ๆ พันธุ์ มีนิสัยเฉพาะตัวที่สุขุม มั่นคง และเชื่อมั่นตัวเอง เชาเชา จึงเป็นสุนัขที่ไม่ต้องการให้เจ้าของเอาอกใจมากนัก พวกเขาจัดเป็นสุนัขที่เงียบ เห่านับครั้งได้ และส่วนใหญ่เห่าเพื่อเตือนให้ระวังภัย มีนิสัย ซื่อสัตย์ เก็บตัวและขรึม
ส่วนหน้าตาที่อาจจะดูดุ ๆ บึ้ง ๆ แต่ความจริงแล้ว เชาเชา เป็นสุนัขที่มีอารมณ์ดี รักอิสระ และจงรักภักดี พวกเขาจะไม่ชอบกระดิกหางให้กับคนทั่วไป หากแต่จะเลือกแสดงความรักและความขี้เล่นของเขาต่อคนในครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้ ความภักดีของสุนัขพันธุ์นี้ คือสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นคุณสมบัติอันมีค่า